จริงๆแล้ว มีหลายทริปมากที่ตั้งใจจะอัพลงบล็อกครับ แต่ด้วยมีเวลาน้อยปนขี้เกียจ แถมยังมีเยอะหลายทริป ก็เลยไม่ค่อยจะได้อัพเดทซักเท่าไหร่ นี่วันนี้ก็ได้ฤกษ์ลงรูปสวยๆกับทริปชิราคาวาโกะซะที
ต้นปีที่ผ่านมา ผมไปเย็นๆที่ชิราคาวาโกะมาสองรอบแล้วครับ ต้นมกราคมและกลางกุมภาพันธ์ โดยมีเพื่อนๆรบเร้าให้ช่วยพาไปเที่ยวหน่อย ก็จัดไป
หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ และเมืองคาทายาม่าอยู่ในจังหวัดกิฟู ทางฝั่งทะเลญี่ปุ่น ดังนั้นหากจะไปเต็มที่กับหิมะ ยังไงก็ไม่พลาด ระหว่างปลายธันวาคมถึงมีนาคม
รอบที่เขียนในบล็อกนี้ เราไป 17-22 กุมภาพันธ์ครับ เริ่มจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผมซื้อตั๋วของฮ่องกงแอร์ไลน์ ขาไปและกลับจากท่าอากาศยานคันไซ โอซาก้า
สายการบินนี้มีดีที่ราคาไม่แพงมาก แต่ต้องแวะทรานสิทที่ฮ่องกง ขากลับเรามีแวะ 1 Day Trip ในฮ่องกง ถือเป็นข้อดีครับ แต่ก็ด้อยเรื่องน้ำหนักกระเป๋า ตรงที่มีให้แค่ 20 กิโลกรัมต่อคน ก็ถือว่าโอเค สำหรับคนที่ไม่เน้นช๊อปปิ้ง แต่เพื่อนๆบางคน แค่ขนเสื้อกันหนาวไป เครื่องเคราต่างๆนี่ก็เกือบเกินพิกัดแล้ว บางอย่างนี่ต้องถือหิ้วขึ้นเครื่อง คือได้อีก 7 กิโลกรัม
อาหารการกินบนเครื่อง พอใช้ได้อยู่ จะเป็นบางไฟล์ทที่ตรงกับมื้ออาหารหลักเท่านั้นนะ โดยเฉพาะไฟล์ทที่ออกจากญี่ปุ่นนั้นอาหารดีทีเดียว แต่โดยส่วนใหญ่ถ้าเวลาบินไม่ตรงกับมื้อหลัก ก็จะเจอแค่ขนมปังฮอตด็อกอบร้อนเท่านั้น ส่วนเครื่องดื่มก็ครบครัน ผมบินบ่อยเลยครับ สายการบินนี้ เบียร์ชิงเต่า ขอกันเรื่อยๆ
ระบบความบันเทิงส่วนตัวบนเครื่อง เฉพาะ Airbus A330 เท่านั้นครับ แถมบางไฟล์ทที่ออกจากไทยก็ไม่มี
ถึงฮ่องกง ขาไปเราแวะหาอะไรชิลๆกินในเทอร์มินอล1 ที่ฮ่องกง อาหารการกินก็อร่อยๆตามสไตล์กวางตุ้ง
ไปถึงท่าอากาศยานคันไซดึกมาก นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับแบ็คแพ็คเกอร์ไฮโซอย่างเราๆ ท่าอากาศยานคันไซมีเก้าอี้เหลือเฟือให้เราเหยียดนอนถึงรุ่งเช้า แถมยังมีห้องอาบน้ำแบบหยอดเหรียญไว้บริการด้วย
รอบนี้ผมซื้อ คาทายาม่า-โฮคุริคุแอเรีย ทัวร์ริสพาส ใช้สำหรับการเดินทางเข้าออกสนามบินคันไซ นั่งรถไฟเอ็กซ์เพรสธันเดอร์เบิร์ดจากโอซาก้าไปคานาซ่าว่า แถมยังใช้นั่งชินคันเซ็นจากคานาซาว่าไปโทยาม่าได้ และใช้นั่งรถบัสจากคาทายาม่าเข้าไปหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะฟรี แน่นอน เราใช้เส้นทางนั้น และจากโทยาม่าเข้าไปคาทายาม่า เป็นเส้นทางรถไฟท้องถิ่น วิวสวย คลาสสิกมาก โดยเลียบตามไหล่เขา แม่น้ำ ซึ่งมีหิมะเต็มสองข้างทาง
พระเจ้า วิวนี่มันช่างสวยงามอร่ามจิตจริงๆ การเดินทางในทริปนี้เน้นประสบการณ์ และสัมผัสความเป็นท้องถิ่นของญี่ปุ่นครับ
ผมไม่ได้พานอนโรงแรมกันหรอกนะ เรานอนบ้านของคนญี่ปุ่น ถึงแม้ว่ารอบนี้จะแอบเซ็ง เพราะเครื่องทำน้ำอุ่นมีปัญหา นั่นไม่ใช่อุปสรรค์ เพราะมีกาต้มน้ำ 2 ตัว และเตาแก๊สซึ่งใช้การได้ดีทีเดียว
นี่แค่หน้าบ้านก็กินขาดแล้ว หิมะท่วมท้น
นี่แค่หน้าบ้านก็กินขาดแล้ว หิมะท่วมท้น
ในบ้านมีจักรยานให้เราได้ใช้ปั่นกันฟรีๆ การปั่นจักรยานไปรอบๆเมืองเก่าคาทายาม่าเป็นอะไรที่ชิลและสนุกมาก โดยเฉพาะมื้อค่ำ เราก็ปั่นไปซุปเปอร์มาเก็ต หาอาหารสดใหม่จากซุปเปอร์มาเก็ต ซาชิมิเป็นอะไรที่สดอร่อยมากสำหรับที่นี่ อิ่มเอมเปรมปรีแบบประหยัดครับ ทั้งมื้อค่ำและเช้า
นี่มื้อเช้า ผมโชว์ฝีมือทำแซลมอลเทอริยากิ บอกเลยใกล้เคียงห้าดาวจากมิชลินสตาร์เลยเชียว 555
อยู่ที่ญี่ปุ่น เราดื่มเบียร์แทนน้ำ จัดกันทุกยี่ห้อ รสชาดดีหมด แต่ผมแอบเทใจให้ซับโปโรกับคีริน
ยามดึกไม่มีอะไรมากกว่า ปาร์ตี้กันยันเช้า แต่อย่างไร การพักในบ้านของคนญี่ปุ่น เราต้องปฏิบัติตามกฎของเขาอย่างเคร่งครัด เช่นการแยกขยะ และไม่ส่งเสียงดัง
สตรอเบอรี่ที่นี่ลูกใหญ่ นุ่มและหวานฉ่ำมาก ซื้อในซุปเปอร์มาเก็ต ราคาถูกกว่าบ้านเรามาก
นี่เป็นแซลมอลที่เอามาทำเทอริยากิได้อร่อยสุดๆ
ครัวของบ้านนี้ ครบครัน ทันสมัยจริงๆ ทริปนี้เราเน้นกินกิน และกินครับ ที่สำคัญต้องทำกินเองด้วย
ห้องนอนแบบฟูกญี่ปุ่น ให้ความอบอุ่นสำหรับการมาพักในรูปแบบเพื่อนฝูงและครอบครัวได้ดีทีเดียว
ตกค่ำ ดื่มเบียร์พอมึน ก็ออกไปรับหิมะที่กำลังตกอย่างพรั่งพรูหน้าบ้านครับ
5 ภาพต่อไปนี้ เป็นภาพจากทริปก่อนหน้านี้หนึ่งเดือนในคาทายาม่า ซึ่งมกราคมหิมะตกหนักและเยอะกว่ารอบกุมภาพันธ์มาก
รุ่งเช้า เราออกเดินทางไปยังหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ รอบนี้หิมะเต็ม แต่ไม่ตก ทำให้เราได้เห็นท้องฟ้าที่แจ่มใส และชื่นใจกับกองหิมะตรงหน้า
หนาวๆก็เข้ามาผิงไฟซักหน่อย
ด้วยความคิดถึงลูกสาวมากๆ ไม่ต้องกังวล อีกไม่กี่นาทีหิมะก็จะตก และข้อความจะถูกลบไป
นี่คือความสวยงามของที่นี่ครับ เป็นหมู่บ้านโบราณซึ่งเป็นมรดกโลก ที่ใครต่อใครหลายคนอยากมาซักครั้ง โดยเฉพาะช่วงฤดูหิมะ
เย็นชื่นใจจริงๆ
สนุกสนานกันมาก อยู่ได้เป็นวันๆเลยทีเดียว เดี๋ยวถ้าเริ่มหนาว เราก็จะเข้าไปดื่มกาแฟหรือน้ำชาในร้านรวงที่มีอยู่ทั่วไปที่นี่
ผมการันตีเลยว่า ขนมที่ญี่ปุ่นอร่อยทุกอย่าง ร้านกาแฟร้านนี้อยู่เยื้องๆกับสถานีรถบัสครับ บรรยากาศดีมาก เป็นการ
ดริ๊ปกาแฟแบบโบราณ
และ 7 รูปต่อไปนี้ คือบรรยากาศในเดือนมกราคม ที่หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ ครั้งนั้นหิมะตกทั้งวัน
ตกค่ำ เราก็นั่งรถกลับมายังคาทายาม่า และพยายามเสาะหาร้านนั่งสไตล์ญี่ปุ่นยามค่ำคืน จนมาเจอร้านนี้ ซาฟารีปิ้งย่าง คือมีสัตว์ป่าให้เลือกหลายประเภทเลย เช่นเนื้อกวาง หมูป่าฯลฯ
แกล้มเบียร์ ยังไงก็สุดยอด
รุ่งเช้าวันที่สาม เรานั่งรถไฟกลับมายังโอซาก้า แน่นอนว่า การพักในบ้าน ยังไงก็สนุกและอบอุ่นกว่าโรงแรม บ้านนี้ในโอซาก้าก็มีครัวขนาดใหญ่ ครบครัน ได้เวลาปาร์ตี้ครับ เน้นกิน กิน และกิน!
ปราสาทโอซาก้า มีซากุระบานนิดหน่อยให้ยล
นั่งรถไฟไปเกียวโต หน้าสถานีเกียวโต จะเห็นหอคอยเกียวโตโดดเด่นเป็นสง่า
เราไปวัดคิโยมิสึ หรือวัดน้ำใสในเกียวโต ยังมีถนนสายกาน้ำชาให้เดินชิลและชิมขนมแปลกๆ อร่อยๆ ตลอดสาย
เบียร์เกียวโต มันชื่นใจจริงๆ นี่หน้าวัดนะ!
15 ภาพต่อไปนี้ เป็นช่วงมกราคม หิมะตกที่เกียวโต แถมภาพสำรวจตลาดนิชิกิ ผมนี่ชอบเดินตลาดจริงๆ มีของกินท้องถิ่นมากมากให้ซื้อชิม
หิมะตกที่วัดน้ำใส
ชินไซบาชิและโดทงบุริ ก็เป็นย่านช๊อปปิ้งที่ใครๆก็มาที่นี่ ผมพาเพื่อนๆมาละลายทรัพย์กันทุกครั้ง
ชิงช้าสวรรค์เฮปไฟว์ ใกล้สถานีโอซาก้า เสียวดีนะ เพราะมันกระเช้าไม่ใหญ่
อีกจุดนึงที่เป็นไฮไลท์ของโอซาก้าคือ การขึ้นไปชมวิวที่ตึกอูเมดะสกาย บิวดิ้ง
ขาปูยักษ์ก็ไม่พลาด
กลับจากเที่ยวก็ปาร์ตี้ที่บ้านกันต่อ ของอร่อยๆ ราคาถูก เดินไปซื้อจากซุปเปอร์มาร์เก็ตของอิออน
เชฟโอ๋ เชฟฝีมือดีจากระยองมาทำให้กินด้วย
อีกย่านนึง ที่ไม่ควรพลาดในการมาลองลิ้มชิมรสอาหาร คือย่านชินเซไก ของโอซาก้าครับ มีร้านอาหารที่คนญี่ปุ่นท้องถิ่น นิยมมากินกัน บางร้านเปิดยันเช้าเลยนะครับ
ก็ขอจบทริปนี้ไว้แค่นี้ หวังว่าหลายๆคนจะมีโอกาสชวนผมไปเที่ยวในทริปต่อไปในอนาคตนะครับ