วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ตอนที่ 1 ตะลุยเดี่ยวเที่ยว เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง สปป.ลาว

มี 3 ตอนครับ



ตอนที่ 1 ตะลุยเดี่ยวเที่ยวเมืองลาว เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง สปป.ลาว
คลิ๊กที่นี่ http://preechablog.blogspot.com/2010/06/blog-post.html


ตอนที่ 2 ตะลุยเดี่ยวเที่ยวเมืองลาว เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง สปป.ลาว
คลิ๊กที่นี่ http://preechablog.blogspot.com/2010/06/blog-post_08.html


ตอนที่ 3 ตะลุยเดี่ยวเที่ยวเมืองลาว เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง สปป.ลาว
คลิ๊กที่นี่ http://preechablog.blogspot.com/2010/06/3.html


ต้องการดูรูปแบบใหญ่ๆ คลิ๊กที่รูปครับ


มีภาระกิจ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ครับ จึงวางแผนที่จะได้ไปต่อวังเวียงและหลวงพระบาง ตั้งใจไว้มานาน คราวนี้ได้จังหวะอันดี จอดรถไว้ที่อุดรธานี โดยเริ่มต้นที่สถานีขนส่ง
จ.อุดรธานี แห่งที่ 1 เยื้องๆกับเซ็นทรัลพลาซ่า และนั่งรถโดยสารระหว่างประเทศคันนี้ครับ จริงๆแล้วไม่ได้นั่ง มาถึงรถกำลังจะออก จึงขอโซเฟอร์ขึ้น ผลปรากฏว่าได้ยืนข้ามประเทศ
ถึงเวียงจันทน์เลยครับ


อ่านข้างรถคันนี้ เป็นรถสายนครหลวงเวียงจันทน์-นครราชสีมาครับ เอามาเสริมแทนรถเสียที่อุดรธานี สำหรับรถโดยสารระหว่างประเทศที่วิ่งไปเวียงจันทน์มีหลายจุดเริ่มต้น เช่น นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานีและหนองคาย สามารถหาข้อมูลได้จากเวปไซด์ของ บขส. ครับ ซึงจะวิ่งสลับกันระหว่างรถของลาว และรถบขส.ของไทย คลาสของรถประมาณ ป.2


อันนี้เป็นทางรถไฟบนสะพานมิตรภาพ ปลายทางที่ท่านาแล้ง หลังจากที่เราผ่านพิธีการตรวจคนออกเมืองไทย ก็เข้าสู่ตรวจคนเข้าเมืองลาว


จุดหมายปลายทางของวันนี้อยู่ที่โรงแรมแสงพระจันทน์ ถนนล้านช้าง มองเห็นประตูชัย เด่นเป็นสง่า ไม่ไกลนัก


บนถนนล้านช้างจะเป็นที่ตั้งของตลาดเช้ามอลล์ มีทั้งติดแอร์และอาคารไม่ติดแอร์ มาเดินชมกัน ว่ามีอะไรบ้าง


ที่ทำการไปรษณีย์เวียงจันทน์ครับ


มีธนาคารคล้ายๆบ้านเรา ผมแลกเงินที่นี้ 1 บาท ได้ประมาณ 250 กีบกับเศษนิดๆ


15,000 กีบกับขนมจีนน้ำกะทิ ดูเหมือนจะไม่อิ่ม ต่อด้วยข้าวหน้าเป็ด มื้อนี้หมดไป 35,000 กีบ
แพงเอาการ คิดง่ายๆ 10,000 กีบ เท่ากับ 40 บาท


บรรยากาศโดยทั่วไป ของเยอะ แต่ต้องต่อรองให้สุดๆเหมือนกัน
แม่ค้าชอบบอกราคาเวอร์ๆไว้ก่อน


มาตกลงปลงใจกับขาตั้งกล้อง อันนี้จ่ายเป็นเงินไทย 500 บาท ยลโฉมหน้าคนขาย


ใกล้ค่ำแล้ว กลับมายังโรงแรมแสงพระจันทน์ โดยรวมใช้ได้ 600 บาทรวมอาหารเช้า


ตอนนี้รวยมาก มีเงินเป็นล้าน (กีบ)


หลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เรามาเดินชมตลาดกลางคืนกัน บรรยากาศไม่ค่อยคึกคักนัก จากตลาดกลางคืนก็สามารถเดินไปริมฝั่งโขง มีร้านอาหาร ผับ และสินค้าหัตถกรรมขายริมถนนเลียบฝั่งโขง


หิวมาก แวะซื้ออาหารพื้นเมืองลาว และนั่งสามล้อกลับเอาไปกินที่โรงแรม ดังภาพที่เห็น กินง่ายๆ


ยามเช้าระแวกโรงแรม อยู่ใกล้กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารกรุงเทพของไทย เข้าไปใช้บริการโอนเงินในธนาคารกรุงเทพ โอนไปไทย ปรากฎว่าแพงมาก จึงถอยออกมา สุดท้ายใช้บริการธนาคารกรุงศรีอยุธยา ถูกกว่านิดหน่อย อย่าคิดว่าเป็นธนาคารของคนไทยค่าบริการจะถูกนะ พนักงานทั้งสองธนาคารเป็นคนลาวทั้งสิ้น


ตั้งอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ หน้าล็อบบี้เลยครับ


เช้าวันที่สองของการเดินทาง ซึ่งวันนี้จะเดินทางไปยังวังเวียง การหาซื้อตั๋วรถไปวังเวียงไม่ยากนัก อาจหาซื้อที่บริษัทท่องเที่ยวทั่วไป รถบัสราคา 200 บาท ซึ่งไม่แพง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ในวันเดินทางสามารถให้รถมารับได้ ณ ที่พักของเรา ไปยังรถบัส ฟรี
ที่เวียงจันทน์มีเซเวนเซ่นและเดอะพิซซ่าด้วย


รถบัสคันนี้ล่ะครับ จะนำพาไปสู่วังเวียง ผู้ร่วมเดินทางในรถไม่มากนัก ประมาณ 20 คนและพระภิกษุ 4 รูป ชมวิวระหว่างทางครับ 


4 ชั่วโมงผ่านไป เราก็เริ่มเห็นวิวภูเขารูปร่างแปลกตา มาถึงแล้ว วังเวียง


รถบัสจอดที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ที่วังเวียงก็มีสถานีขนส่งนะครับ รถบัสคันนี้อาจเป็นรถนำเที่ยวเอกชน


บรรยากาศที่วังเวียงเงียบสงบ รถราน้อยมาก เดินผ่านบ้านหลังหนึ่ง ดูหน้าน้องสาววังเวียงคนนี้สิ อาจกำลังอกหักอยู่รึเปล่า บรรยากาศตอนนี้มืดครึ้ม ฝนกำลังจะตกเร็วๆนี้


ยานพาหนะของผมสำหรับที่นี่คือจักรยาน หาเช่าได้วันละ 60 บาทไทย จะบอกอะไรให้ 3 กิโลเมตรแรกขี่ผิดเลน ที่นี้เขาขี่ขวา ไม่นานนักก็เริ่มคุ้นเคยกับถนนหนทางและการขับขี่


จ้ำอ้าวๆ ฝนกำลังจะตก


ฝนตกแล้ว มาหลบฝนที่ร้านขายเฝอ มันก็ก๋วยเตี๋ยวดีๆนี่เอง สั่งมา 1 ถ้วย
อร่อยมั๊ย???
แต่ก็หมด จะบอกว่ามันไม่เท่าบ้านเราหรอก ความอร่อยน่ะ


ขี่จักรยานวนหาที่พัก จนมาถึงแห่หนึ่ง สนนราคาคืนละ 360 บาท ห้องพัดลม ไม่แพง สิ่งอำนวยความสะดวกมีครบ


ที่สำคัญที่สุดคือ วิว สุดยอด ติดแม่น้ำซอง และกลางคืนไม่ต้องเปิดพัดลมครับ อากาศมันเย็นมากๆ


เด็กๆขายผักริมถนน


ทานอาหารเย็นบรรยากาศดีดี ริมแม่น้ำซอง


สิ่งที่สั่ง สเต็กลาวและชาร้อนลาว หน้าตาเป็นแบบนี้ นี่หรือเสต็กลาว ถ้าใส่ซอสมะเขือเทศไปนิด มันก็ผัดเปรี้ยวหวานดีๆนี่เอง


แต่ก็หมดเกลี้ยง


ใกล้ค่ำ มองไกลๆในความเงียบ ดูเหมือนจะเหงานะ ที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่จะมาระงับความฟุ้งซ่านได้เป็นอย่างดี


ตบท้ายมื้อเย็นด้วยโรตีลาว ใส่กล้วยไข่


เช้าวันที่สามของการเดินทาง วันนี้จะไปหลวงพระบางแล้ว จองตั๋วรถตู้ไว้เมื่อวาน ราคา 400 บาท ขึ้นรถบ่ายโมง เช้านี้เราไปเที่ยวตลาดเช้าและถ้ำกัน


ขายหน่อไม้ครับ หน่อไม้


ขี่จักยานเลียบเคียงสาวน้อยมัธยมลาว คนน่ารักซ้อนท้าย ไม่ยอมให้ถ่ายรูป


ดื่มกาแฟยามเช้าที่ร้านนี้ บนถนนรถแทบจะไม่มี จนเด็กๆเอาสเก็ตบอร์ดมาเล่น


ไล่เก็บภาพบรรยากาศริมแม่น้ำและภูเขาอันแสนสวย เมฆลอยต่ำมาก


ที่พักแบบบังกาโล ใช้วัสดุธรรมชาติ ฝรั่งมาพักกันมาก แบบนี้


วังเวียงรีสอร์ท ที่นี้มีถ้ำด้วย แต่ไม่ได้เข้าไป มันต้องขึ้นบันไดไปสูงมาก เอาไว้คราวหน้า



ที่สถานีขนส่งวังเวียงตอนบ่ายโมง รถตู้คนนี้ พี่คนขับ และผู้ร่วมเดินทางเป็นฝรั่งเต็มคันรถ เรากำลังเดินทางสู่หลาวงพระบางกัน ทราบว่าจะถึงจุดหมายปลายทางราวสองทุ่ม นานเอาการ 


ติดตามตอนที่ 2 ที่นี่ครับ http://preechablog.blogspot.com/2010/06/blog-post_08.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น