ก่อนหน้านี้ โปรดเข้าชม
เมลเบิร์น มหานครที่ถูกจัดอันดับว่าน่าอยู่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก
อาหารเช้าใน Claremont Hotel จัดว่าสามารถทำให้อิ่มได้ ถ้าไม่เรื่องมาก
เช้านี้ต้องนำรถไปคืนที่ Europ Car ซึ่งต้องเติมน้ำมันให้เต็มก่อน
การขับรถในมหานครเมลเบิร์นถือว่าซับซ้อนพอควร แต่ก็สามารถหาจุดคืนรถได้
ช้าไปครึ่งชั่วโมง ทำให้โดนชาร์จเพิ่มไป 1 วัน!! เจรจาต่อรองยังไงก็ไม่เป็นผล
ต่อจากนี้เริ่มใช้บริการขนส่งสาธารณะ รถรางเป็นการเดินทางที่คลาสิกมาก
เราจะเดินทางสู่แหล่งช๊อปปิ้งกลางใจเมือง
ลองนั่งรถรางเป็นวงกลมเล็กๆ รอบเมือง
อาหารจีนในย่านไชน่าทาวน์ พอจะทำให้หายอยากอาหารไทยไปได้บ้าง (เล็กน้อย)
Rampage ที่ขายแพงในเมืองไทย จับต้องได้ในเมลเบิร์น
ผมชอบร้านดอกไม้ครับ มันให้บรรยากาศโรแมนติก
รถรางหน้าตาหลายแบบทั้่วเมือง
ขายผลไม้
ที่นี่ก็ต่อแถวเหมือนกัน แถวสั้นๆ
การแสดงที่เรียกคนดูพอควร แลกกับตังก์เล็กๆ
เมเปิ้ล ใบสีเขียวชอุ่ม
ช่วงนี้คริสมาสต์ ซานตาครอสนี่คนจริงๆนะ คงเมื่อยไม่น้อย นั่งให้คนถ่ายรูปทั้งวัน
เมื่อยล้า ขอกลับที่พักเอาของไปเก็บเสียบ้าง
ด้วยรถไฟฟ้าที่ลงใต้ดินและขึ้นบนดิน
เก็บของแล้วไปกันต่อ รถไฟที่นี่มีหลายสาย ไม่ยากเท่าไหร่ถ้าวางแผนดีๆ
ขณะนี้เวลาประมาณสองทุ่ม ยังไม่มืดเลย มาเดินแถว Etihad Stadium
อากาศหนาวและลมแรงมาก
ตึกและประติมากรรมแปลก ทำให้ตื่นตาตื่นใจ
สามทุ่ม ผู้คนไปไหนหมดไม่รู้ ลมแรงและหนาวมาก
บวกกับความอ่อนเพลียขอกลับโรงแรมที่พักดีกว่า
สภาพห้องและโรงแรมที่พัก ใช้ได้ทีเดียว สะอาด มีหน้าต่าง
ได้แง้มหน้าต่างออกนิดเดียว ลมแรงและอากาศเย็นมาก
เช็คเอาท์ วันนี้กลับเมืองไทยแล้วครับ
เดินทางสู่สนามบินเมลเบิร์นด้วย Sky Bus
เดินทางด้วยสายการบิน Virgin Blue สู่ซิดนีย์ เพื่อต่อเครื่องกลับเมืองไทยที่นั่น
มีจอทีวี แต่ดูอะไรไม่ได้ ใครจะดูต้องเสียตังก์
เมฆปุ่ยน้อยๆ บนท้องฟ้าของออสเตรเลีย
เครื่องลงที่อาคารในประเทศ ต้องต่อรถไฟไปอาคารระหว่างประเทศ
การต่อรถไฟระหว่างอาคารที่นี่ เสียตังก์!
ละลายเงินดอลออสซี่
รอและรอขึ้นเครื่อง
ภาพสุดท้ายเป็นอาหารบนเครื่องบริติชแอร์เวย์ ซึ่งนำผมสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยความปลอดภัย
อย่าลืมกลับไปชม The Great Ocean Road
ถนนเลียบมหาสมุทร สวยที่สุดในโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น